นวัตกรรมที่ช่วยป้องโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

อาหารที่คนเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะควรหลีกเลี่ยง

1. การบริโภคของเหลวชนิดต่างๆ
          การบริโภคของเหลวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น น้ำเปล่า นม น้ำผลไม้ ซุป ฯลฯ ทำให้เกิดของเหลวสะสมในกระเพาะปัสสาวะ กระตุ้นให้เกิดอาการอยากเข้าห้องน้ำไปฉี่บ่อย ๆ อย่างไรก็ตามคุณไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ด้วยการงดบริโภคของเหลวทุกชนิด เพราะนอกจากจะทำให้ร่างกายขาดน้ำ ยังทำให้กระเพาะปัสสาวะเกิดการระคายเคือง และก่อให้เกิดโรคนิ่วได้ ทางออกที่ดีคือการบริโภคน้ำในปริมาณที่เหมาะสม คือวันละ 8 แก้ว ซึ่งอาจเพิ่มหรือลดลงจากนี้ได้ตามมวลกายของคุณ และหากคุณประสบปัญหาลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำกลางดึกเป็นประจำ การลดปริมาณและของเหลวในมื้อเย็น และก่อนเข้านอนจะช่วยให้อาการของคุณดีขึ้น
2. การดื่มแอลกอฮอล์

          แอลกอฮอล์มีคุณสมบัติขับปัสสาวะ โดยนอกจากจะทำให้กระเพาะปัสสาวะระคายเคืองแล้ว และยังไปเพิ่มปริมาณของเหลวในกระเพาะปัสสาวะด้วย การงดหรือจำกัดปริมาณแอลกอฮอล์ที่บริโภคในหนึ่งวัน จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้

3. การดื่มชาและกาแฟ   

        ชาและกาแฟต่างก็มีสารคาอีน ซึ่งออกฤทธิ์ขับปัสสาวะและทำให้กระเพาะปัสสาวะเกิดอาการระคายเคืองได้เช่นเดียวกับแอลกอฮอล์ ผู้ที่มีปัญหาเรื่องกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคคาเฟอีน แต่หากทำใจงดชาและกาแฟถ้วยโปรดไม่ได้ ลองเลือกชากาแฟประเภทดีคาฟ (decaf) ซึ่งมีปริมาณคาเฟอีนน้อยกว่าปกติแทนถ้วยปกติที่ดื่มเป็นประจำ

4. ช็อกโกแลต
          

ขอแสดงความเสียใจกับช็อกโกแลตเลิฟเวอร์ที่ประสบปัญหาภาวะปัสสาวะเล็ด เพราะช็อกโกแลตแสนอร่อย ไม่ว่าจะเป็นแบบดาร์กช็อกโกแลต ช็อกโกแลตนม โกโก้เย็น หรือว่าฮ็อตช็อกโกแลตอุ่น ๆ ที่ดื่มก่อนนอน ต่างก็มีสารคาเฟอีนเจือปนอยู่ ซึ่งแน่นอนว่าส่งผลต่ออาการปวดปัสสาวะด้วย

5. น้ำตาล

          หากคุณกำลังพยายามด้วยทดแทนช็อกโกแลตด้วยของหวานชนิดอื่น คงจะต้องผิดหวังอีกครั้ง เมื่อน้ำตาลเองก็สามารถสร้างความระคายเคืองให้กับกระเพาะปัสสาวะได้เช่นกัน โดยน้ำตาลในที่นี้ยังหมายรวมถึง น้ำผึ้ง น้ำเชื่อมข้าวโพดหรือคอร์นซีรัป และน้ำตาลฟรักโทสซึ่งพบได้ในผลไม้ทั่วไป แต่อย่างไรก็ตาม คุณไม่จำเป็นต้องงดน้ำตาลเหล่านี้โดยสิ้นเชิงเพื่อรักษาอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ เพราะน้ำตาลเองก็มีประโยชน์ช่วยให้ความสดชื่นกับร่างกาย เพราะฉะนั้นเพียงเลือกบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะก็เพียงพอ

6. น้ำอัดลม

   

น้ำรสซ่าอย่างน้ำอัดลมประเภทต่าง ๆ มีทั้งส่วนผสมของคาเฟอีน และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งทำให้ภาวะปัสสาวะเล็ดยิ่งย่ำแย่ลง ด้วยทั้งคู่นั้นต่างทำให้เกิดอาการระคายเคืองกระเพาะปัสสาวะ นอกเหนือจากการหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ และน้ำอัดลมแล้ว ผู้ที่ประสบปัญหากลั้นปัสสาวะไม่ได้ ยังควรหลีกเลี่ยงอาหารที่เจือสารสังเคราะห์ เช่น สารแต่งกลิ่นและสี และเน้นการรับประทานอาหารที่มาจากธรรมชาติ อันอุดมไปด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนท์และวิตามินแทน

7. อาหารรสเผ็ด

          อาหารรสเผ็ดจัด อาจเป็นอีกสาเหตุหนึ่งทีทำให้ผู้ที่มีปัญหาในการกลั้นปัสสาวะ มีอาการแย่ลงกว่าเดิม เพราะฉะนั้นหากเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีส่วนผสมของผงกะหรี่, พริก, พริกไทย, พริกปาปริก้า และอาหารที่มีรสชาติเผ็ดร้อนทั้งหลาย

8. ผลไม้รสเปรี้ยว
          

แม้ผลไม้รสเปรี้ยวอย่างมะนาว เลมอน ส้ม เกรปฟรุต หรือแม้กระทั่งมะเขือเทศ จะอุดมไปด้วยวิตามินซี แต่กรดที่ทำให้เกิดรสเปรี้ยวนี้ จะไปรบกวนการทำงานของกล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะให้บีบตัว ทำให้เกิดอาการปวดฉี่ อยากเข้าห้องน้ำได้ 

9. แคนเบอร์รี่

          ในทางหนึ่งแครนเบอร์รี่สามารถใช้เป็นอาหารบำบัดในรายที่มีอาการทางเดินปัสสาวะอักเสบ หลายคนจึงมักเข้าใจผิดว่ามันสามารถใช้รักษาอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ได้ แต่ในความจริงแล้วมันกลับยิ่งทำให้อาการกลั้นปัสสาวะได้ลำบากหนักขึ้น เนื่องจากแครนเบอร์รี่มีค่า pH เป็นกรด อันทำให้เกิดอาการระคายเคืองกระเพาะปัสสาวะนั่นเอง

10. ยาบางประเภท

ยาบางประเภทที่ใช้รักษาอาการโรคหัวใจ, โรคความดันตํ่า, ยาคลายกล้ามเนื้อ, ยาระงับประสาท และ ยาอีกบางชนิด ทำให้อาการกลั้นปัสสาวะลำบากยิ่งย่ำแย่ลง เนื่องด้วยเมื่อกินยาเข้าไป ร่างกายจะพยายามขับน้ำส่วนเกินออก เพื่อให้หัวใจและอวัยวะส่วนต่าง ๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ปริมาณของเหลวในกระเพาะปัสสาวะจึงมีเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดความรู้สึกปวดปัดสาวะขึ้นมานั่นเอง อย่างไรก็ตามหากคุณกำลังประสบปัญหาเช่นกรณีนี้ อย่าหยุดยาด้วยตัวเองเพื่อรักษาอาการกลั้นปัสสาวะยาก แต่ควรปรึกษาแพทย์เจ้าของไข้ของคุณเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมขึ้น

เมนูอาหารสำหรับคนเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะ

อาหารที่มีไฟเบอร์ หรือว่ากากใยสูง เช่น ผัก ผลไม้ และธัญพืช ชนิดต่างๆ เช่น กล้วย มะละกอ แอ๊ปเปิ้ล ทั้งหมดที่ว่ามานี้มีใยอาหารชนิดเพคตินมาก และสิ่งนี้เองที่จะช่วยป้องกันโรคกระเพาะ อีกทั้งยังป้องกันไม่ให้เป็นมะเร็งในกระเพาะอาหาร อีกด้วย

อาหารประเภทผักใบเขียวจัด เนื่องจากผักใบเขียวจัดมีวิตามิน K สูง มันจะช่วยรักษาแผลในกระเพาะให้หายเร็วขึ้น และยังป้องกันเลือดออกในกระเพาะ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มการดูดซึมสารอาหารเข้าสู่ร่างกาย และช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และป้องกันมะเร็งได้อีกด้วย

ผัก-ผลไม้ที่มีเบตาแคโรทีนสูง หรือจำง่ายๆ ก็คือผัก ผลไม้ที่มีสีส้ม เหลือง แดง เช่น ฟักทอง แครอท แคนตาลูป การกินอาหารเหล่านี้จะทำให้ร่างกายได้รับวิตามินซี ช่วยป้องกันเยื่อบุกระเพาะและลำไส้ ป้องกันการติดเชื้อ และยังช่วยเร่งให้แผลในกระเพาะหายเร็วขึ้น

อาหารย่อยง่าย เพราะคนที่เป็นโรคกระเพาะอาหาร มักจะมีแผลที่กระเพาะอาหาร ซึ่งง่ายต่อการเกิดอาการระคายเคือง และนำมาซึ่งสาเหตุของอาการปวดท้อง ดังนั้นควรกินอาหารที่ย่อยง่ายอย่างเนื้อปลา เนื้อไก่ เนื้อกุ้ง ซึ่งจะย่อยได้ง่ายกว่าเนื้อวัวและเนื้อหมู โดยเราสามารถช่วยให้กระเพาะทำงานน้อยลงด้วยการเคี้ยวอาหารให้ละเอียด เป็นการลดระยะเวลาในการย่อยอาหารของกระเพาะ และทำให้ร่างกายหลั่งน้ำย่อยอาหารออกมาไม่มากจนก่อให้เกิดอาการปวดกระเพาะอาหารได้

"WC PEEC" นวัตกรรมห้องน้ำพกพา

        

         “กรุงเทพมหานคร” นอกจากขึ้นชื่ออาหารการกิน ที่มีตั้งแต่ร้านหรู จนถึงสตรีทฟู้ด และสถานที่ท่องเที่ยวมากมายแล้ว ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่อยู่คู่กับเมืองหลวงประเทศไทยมาตลอดทุกยุคสมัย คือ “ปัญหารถติด” ยิ่งในชั่วโมงเร่งด่วน ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงติดอยู่บนถนนปัญหาอย่างหนึ่งสำหรับคนที่ขับรถต้องเจอกับตัวเอง หรือแม้แต่คนรอบข้างอยู่บ่อยครั้ง คือ “ปวดปัสสาวะ” เป็นความทรมานเกินบรรยาย หลายคนใช้วิธีอั้น และอีกหลายคนใช้แก้วกาแฟ ขวดน้ำ หรือถุงพลาสติกโดยเฉพาะผู้หญิง นานวันเข้ากลายเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ และบางคนอั้นมากๆ ลามไปเป็นกรวยไตอักเสบ จากปัญหาดังกล่าว นำมาสู่การออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ “ห้องน้ำพกพา” เพื่อแก้ปัญหาที่คนในกรุงเทพฯ ประสบอยู่”WC PLUS+วัตกรมหงน้ำพกพาไปได้ทุกที่

“Hydrozitla” เครื่องดื่มใหม่ ห่างไกลนิ่ว

ไฮโดรซิทลา ซิเตรท พลัส ตัวช่วยใหม่ ที่ทำให้น้ำเปล่าน่าดื่มมากยิ่งขึ้น นอกจากรสชาติเปรี้ยวอมหวานและมีกลิ่นหอมแล้ว ยังสามารถต้านนิ่วในปัสสาวะได้อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นมิติใหม่ของเครื่องดื่มที่สามารถรักษาโรคและป้องกันโรคได้ นวัตกรรมที่ฉีกทุกกฎของเครื่องดื่มโดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชาญชัย บุญหล้า ภาควิชาชีวเคมี คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

โรคนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ เป็นโรคของระบบทางเดินปัสสาวะที่พบได้บ่อยที่สุดในประเทศเขตร้อน ซึ่งประเทศไทยมีความชุกของโรคนิ่วสูงถึงร้อยละ 12-17 และปัญหาสำคัญของโรคนิ่วในปัสสาวะคือการเกิดซ้ำบ่อย ไตมีการอักเสบ การทำงานของไตเสื่อมลง และทำให้เกิดโรคไตวายเรื้อรังในที่สุด ซึ่งเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต

ขนาดของก้อนนิ่วมีตั้งแต่ 1 ซม.ไปจนถึง 5 ซม. เกิดจากการจับตัวเป็นตะกอนในขั้นตอนกรองของเสียของไต พบในผู้ที่เสียเหงื่อ ผู้ที่ดื่มน้ำน้อย ผู้ที่มีค่าเป็นกรด-ด่างในกระเพาะปัสสาวะผิดปกติ หรือแม้กระทั่งการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีแคลเซียมออกซาเลตสูงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้อาจมีสาเหตุมาจากสารอื่นๆ ได้แก่ แคลเซียมฟอสเฟต แอมโมเนียมยูเรท กรดยูริก เป็นต้น ซึ่งโรคนิ่วในกระเพาะปัสสาวะสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย และพบมากในเพศชายมากกว่าเพศหญิงถึง 3 เท่า

       “ไฮโดรซิทลา” เป็นสารเข้มข้นอยู่ในรูปแบบไซรัป ผสมดื่มร่วมกับน้ำสะอาดในปริมาตร 500 มล. ทำให้ผู้ป่วยได้รับน้ำ ซิเตรท และสารต้านอนุมูลอิสระจากสมุนไพรตำรับไทยและอายุรเวท มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ อีกทั้งมีรสชาติดี ทำให้ผู้ป่วยสามารถดื่มได้ต่อเนื่องจนครบ 6 เดือน ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและลดความเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในปัสสาวะให้สูงขึ้นกว่าเดิม

นวัตกรรม "กางเกงอุบอิบ"

จากการปฏิบัติงานที่แผนกผู้ป่วยนอกโรงพยาบาลพิมาย ได้สังเกตเห็นว่ามีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งที่มารับบริการ มีอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้รักษาอาการเจ็บป่วย ติดตัวกลับไปบ้าน นั่นคือการคาสายสวนปัสสาวะ (Indwelling catheterization) ได้แก่ ผู้ป่วยที่มีการอุดตันของท่อปัสสาวะกรณีต่อมลูกหมากโต, ท่อปัสสาวะตีบแคบ, มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ, ป้องกันผิวหนังเกิดการระคายเคืองจากปัสสาวะในผู้ป่วยที่กลั้นปัสสาวะไม่ได้ เป็นต้น การรักษาแบบนี้ ลดความทุกทรมานจากการเจ็บป่วยก็ริงอยู่ แต่ก็มีสิ่งที่ผู้ป่วยต้องสูญเสีย นั่นคือภาพลักษณ์ หรือจิตวิญญาณ นั่นเอง ผู้ป่วยทุกคนรู้สึกอายกับสิ่งที่ตนเองต้องปฏิบัติ สังเกตว่าเวลาผู้ป่วยกลุ่มนี้เดินไปไหน มักมีคนมองตามจำนวนไม่น้อย อาจด้วยความสงสัย อยากรู้ว่าป่วยเป็นอะไร ซึ่งยิ่งทำให้ผู้ป่วยกลุ่มนี้ สูญเสียความมั่นใจ แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นสำหรับการรักษา คนไข้หลายคนจำกัดกิจกรรมตัวเอง เช่นการเข้าสังคม การเดินทางออกไปทำธุระนอกบ้าน ทั้งที่ไม่ใช่ข้อจำกัด แต่เพราะภาพลักษณ์นั่นเอง อีกประการคือ เวลาที่ผู้ป่วยมาพบแพทย์ที่ โรงพยาบาลนั้นหลายคนเอาถุงปัสสาวะ ใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง ซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื่อกระเพาะปัสสาวะมาก เพราะโดยหลักการแล้ว เราต้องให้ถุงปัสสาวะอยู่ต่ำกว่า ระดับของกระเพาะปัสสาวะเพื่อป้องกันการไหลย้อนกลับของปัสสาวะที่ระบายออกมาแล้ว ซึ่งอาจมีเชื้อโรคเกิดขึ้น

นวัตกรรมกางเกงซ่อน–แอบหน่วยงาน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโพนสูง เจ้าของผลงาน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโพนสูง

ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา

      การคาสายสวนปัสสาวะ (Indwelling catheterization) นั้น มีข้อบ่งชี้ในผู้ป่วยที่มีการอุดตันของท่อปัสสาวะกรณีต่อมลูกหมากโต, ท่อปัสสาวะตีบแคบ, ป้องกันการอุดกั้นของท่อปัสสาวะจากการมีก้อนลิ่มเลือดภายหลังผ่าตัดผ่านท่อปัสสาวะ หรือจากมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ, ประเมินปริมาณปัสสาวะเพื่อประเมินการทำงานของไตเช่นผู้ป่วยช็อคและป้องกันผิวหนังเกิดการระคายเคืองจากปัสสาวะในผู้ป่วยที่กลั้นปัสสาวะไม่ได้ไม่รู้สึกตัว ซึ่งในปัจจุบันมีผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยที่ต้องคาสายสวนปัสสาวะกลับบ้านเป็นเวลานาน ซึ่งเมื่อมีการคาสายสวนปัสสาวะสิ่งที่ตามมาคือผู้ป่วยต้องมีถุงปัสสาวะติดตัวและต้องถือหรือห้อยถุงปัสสาวะให้ต่ำกว่าสายสวนปัสสาวะอยู่ตลอดเวลา เพราะการยกถุงปัสสาวะสูงจะส่งผลทำให้ปัสสาวะไหลย้อนกลับทำให้เกิดการติดเชื้อตามมาได้ นอกจากนั้นยังดูไม่สวยงามเนื่องจากสามารถเห็นปัสสาวะภายในถุงเก็บปัสสาวะ ส่งผลให้ผู้ป่วยไม่ได้รับความสุขสบายทั้งทางร่างกายและจิตใจ โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่ไม่ได้นอนติดเตียงซึ่งยังคงต้องดำเนินชีวิตเป็นปกติ ทำให้ไม่สะดวกในการทำกิจวัตรประจำวัน อีกทั้งยังปั่นทอนจิตใจจากการที่ภาพลักษณ์ของตนเปลี่ยนแปลงไป ไม่มั่นใจเมื่อต้องพบปะกับบุคลภายนอก 
      ด้วยเหตุนี้ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองนครราชสีมา จึงได้จัดทำนวัตกรรมกางเกงซ่อนสาย(สวนปัสสาวะ)ขึ้น เพื่อใช้เป็นกางเกงต้นแบบในการให้แต่ละโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในสังกัดได้นำไปใช้กับผู้ป่วยที่มีการคาสายสวนปัสสาวะในพื้นที่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโพนสูงซึ่งมีผู้ป่วยที่ต้องคาสายสวนปัสสาวะไว้ในความดูแล 2 คน ได้เห็นความสำคัญและปัญหาดังกล่าวจึงได้นำนวัตกรรมดังกล่าวมาปรับปรุงเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถนำมาใช้งานได้ตรงกับความต้องการของผู้ป่วยมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการลดการติดเชื้อจากปัสสาวะไหลย้อน และยังเป็นการส่งเสริมให้ผู้ป่วยสามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ ส่งเสริมคุณค่าของความเป็นมนุษย์อีกทางหนึ่งด้วย 

วัตถุประสงค์

 1. เพื่อเป็นการลดภาวะเสี่ยงต่อการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ

 2. เพื่อลดการสูญเสียภาพลักษณ์และสร้างความมั่นใจต่อผู้ป่วยเมื่อต้องอยู่ในสังคม
           3. เพื่อส่งเสริมให้ผู้ป่วยสามารถดำเนินชีวิตและปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ

เป้าหมาย

1. ผู้ป่วยได้รับการรักษาโดยการมีการคาสายสวนปัสสาวะและกลับมาพักอาศัยอยู่ในชุมชน 

ขั้นตอน/วิธีดำเนินงาน

1. ประชุมทีมสุขภาพโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโพนสูงถึงปัญหาที่พบจากการออกเยี่ยมบ้านผู้ป่วยที่มีการคาสายสวนปัสสาวะ 

2. เปิดโอกาสให้ทีมสุขภาพร่วมกันคิดค้นหาแนวทางในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาที่พบจากการคาสายสวนปัสสาวะ

3. เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยที่มีการคาสายสวนปัสสาวะ แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับนวัตกรรมที่ตรงกับความต้องการและสามารถใช้งานได้จริง

4. ออกแบบกางเกงและกระโปรงที่สามารถใช้เก็บซ่อนสายปัสสาวะและถุงปัสสาวะ ที่มีความสะดวกในการพกพา มีการเก็บซ่อนถุงที่ไม่เกะกะ

5. ติดต่อประสานงานกับผู้ตัดเย็บ อธิบายรูปแบบและความต้องการของกางเกงในการเก็บซ่อนถุงปัสสาวะ 

6. ประเมินความสุขสบายของการสวมใส่ ความพึงพอใจสำหรับผู้ป่วย

7. ติดตามประเมินภาวะแทรกซ้อนของผู้ป่วยที่มีการคาสายสวนปัสสาวะหลังจากมีการใช้กางเกงที่ออกแบบในการเก็บซ่อนถุงปัสสาวะ

อุปกรณ์

1. ผ้าถุง, กางเกงชาวเล 

2. กรรไกร 

3. ด้าย

4. ผ้าที่ใช้สำหรับเย็บติดกับผ้าถุง หรือกางเกงชาวเล

ปัจจัยแห่งความสำเร็จ

1. ผู้ป่วยที่คาสายสวนปัสสาวะให้ความสนใจ และร่วมมือสนับสนุนการต่อยอดนวัตกรรม 

2. สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองให้การสนับสนุนในการดำเนินการจัดทำนวัตกรรม         
3. เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโพนสูง มีความสนใจในการค้นหานวัตกรรมเพื่อนำมาประยุกต์ใช้และต่อยอดนวัตกรรมเพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ป่วยในพื้นที่ 

ซีเคียว ทางเลือก “ที่ไม่ต้องอั้น” ป้องกันโรคยอดฮิตสาวออฟฟิศ

กางเกงผ้าอ้อมสำหรับผู้ใหญ่คุณภาพจากญี่ปุ่น แบรนด์ซีเคียว ตัวเลือกในการป้องกันโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ซึ่งเป็นโรคยอดฮิตในสาวออฟฟิศ ที่เกิดขึ้นจากหลายปัจจัยในการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การนั่งทำงานเป็นเวลานานและมีงานติดพันมากมาย จนไม่มีเวลาแม้แต่จะลุกไปเข้าห้องน้ำ รวมถึงการเดินทางไกล หรืออยู่ภายใต้สภาพการจราจรที่ติดขัดเป็นเวลานาน ฯลฯ สาเหตุสู่โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

ซีเคียว นวัตกรรมที่ตอบโจทย์ให้ผู้สวมใส่รู้สึกมั่นใจมากยิ่งขึ้น ใช้สวมใส่แทนกางเกงชั้นใน ผิวกางเกงนุ่มคล้ายผ้า ใส่กระชับ ไม่อึดอัด ซึมซับได้มากและแห้งสบาย ปกป้องรอบทิศทาง พร้อมเม็ดเจลช่วยดับกลิ่นไม่พึงประสงค์ มีขนาดไซส์ M – L, L – XL และใหม่ไซส์ XXL ขนาดใหญ่พิเศษ ทางเลือกที่ “ไม่ต้องอั้น” ช่วยในการป้องกันโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ และตอบโจทย์การใช้ชีวิตของสาวออฟฟิศได้อย่างดี

https://www.khaosod.co.th/pr-news/news_1371298

https://www.brandbuffet.in.th/2018/02/wcplus-toilet-in-car/